ทำไมกฎหมายถึงสำคัญกับการสอบท้องถิ่น?
ถ้าพูดถึงหัวใจของการสอบท้องถิ่น ภาค ก. แล้ว หนึ่งในหมวดที่ทุกคนไม่สามารถมองข้ามได้เลยคือ ความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “สอบกฎหมายท้องถิ่น” กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอำนาจหน้าที่เฉพาะที่แตกต่างจากราชการส่วนกลาง การสอบจึงต้องวัดว่าผู้สมัครมีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจริงหรือไม่
การอ่านกฎหมายไม่ใช่แค่ท่องจำถ้อยคำในมาตราเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจ “สาระสำคัญ” ของแต่ละฉบับ รู้ว่ากฎหมายแต่ละตัวมุ่งคุ้มครองหรือกำกับอะไร และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสถานการณ์จริงได้

กฎหมายที่ต้องอ่านก่อนสอบท้องถิ่น
เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบท้องถิ่น ภาค ก. เราสามารถสรุปกฎหมายที่ออกสอบบ่อย ๆ ได้ดังนี้
1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ การสอบท้องถิ่นจึงมักออกข้อสอบเกี่ยวกับหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญ เช่น
- หลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย
- สิทธิเสรีภาพของประชาชน
- หน้าที่ของรัฐในการจัดบริการสาธารณะให้ประชาชน
- องค์กรอิสระและหน้าที่ขององค์กรอิสระ
เคล็ดลับ: เน้นอ่านหมวดสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของพลเมือง และหมวดโครงสร้างการปกครอง เพราะมักออกสอบบ่อยที่สุด
2. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
กฎหมายฉบับนี้เป็นพื้นฐานของระบบราชการไทย ว่าด้วยการจัดโครงสร้างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
หัวข้อที่มักออกสอบ ได้แก่:
- การแบ่งส่วนราชการ (ส่วนกลาง/ภูมิภาค/ท้องถิ่น)
- อำนาจและหน้าที่ของแต่ละส่วน
- หลักการกำกับดูแลระหว่างส่วนราชการ
เคล็ดลับ: ทำ Mindmap ว่าโครงสร้างราชการแบ่งเป็น 3 ส่วน และแต่ละส่วนมีลักษณะอย่างไร
3. พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540
เมื่อเข้าสอบท้องถิ่น หน่วยงานระดับจังหวัดอย่างอบจ. ถือเป็นองค์กรสำคัญ ข้อสอบมักถามเกี่ยวกับ:
- โครงสร้างการบริหารของ อบจ. (นายก อบจ. / สภา อบจ.)
- อำนาจหน้าที่เฉพาะของอบจ.
- วิธีการจัดบริการสาธารณะระดับจังหวัด
เคล็ดลับ: อ่านแบบเชื่อมโยงกับ พ.ร.บ.เทศบาล และ พ.ร.บ.อปท. เพื่อเปรียบเทียบหน้าที่ต่างกันตรงไหน
4. พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เทศบาลเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในเขตเมืองและชุมชนเมือง กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุม:
- ประเภทของเทศบาล (นคร, เมือง, ตำบล)
- โครงสร้างการบริหาร (นายกเทศมนตรี, สภาเทศบาล)
- หน้าที่และอำนาจที่เทศบาลต้องดูแล เช่น การพัฒนาชุมชน การสาธารณสุข การศึกษา
เคล็ดลับ: เน้นจำประเภทของเทศบาล และหน้าที่ที่ต่างจาก อบจ. และ อบต.
5. พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537
องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. เป็นหน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบพื้นที่ระดับตำบล ข้อสอบมักถามเกี่ยวกับ:
- โครงสร้าง อบต. (นายก อบต. / สภา อบต.)
- ขอบเขตหน้าที่ของ อบต.
- กระบวนการเลือกตั้งและการทำหน้าที่ของสมาชิก
เคล็ดลับ: เน้นการจำรูปแบบการบริหาร และลักษณะงานบริการพื้นฐานในระดับตำบล
6. พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
กฎหมายฉบับนี้กำหนดหลักการกระจายอำนาจจากส่วนกลางลงสู่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจของการบริหารราชการท้องถิ่น
ประเด็นที่มักออกสอบ เช่น:
- หลักการกระจายอำนาจ
- ขอบเขตการบริหารที่ท้องถิ่นมีอำนาจเต็ม
- หน่วยงานกลางที่มีหน้าที่สนับสนุนการกระจายอำนาจ
เคล็ดลับ: จำแนกให้ได้ว่าสิ่งใด “ท้องถิ่นทำเอง” สิ่งใด “ต้องขออนุมัติจากส่วนกลาง”
7. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
สอบท้องถิ่นทั้งที ก็ต้องเข้าใจว่าระบบการบริหารบุคลากรของราชการท้องถิ่นเป็นอย่างไร
ข้อสอบออกเรื่อง:
- การบรรจุแต่งตั้งข้าราชการส่วนท้องถิ่น
- วินัย การลงโทษทางวินัย
- สิทธิและหน้าที่ของข้าราชการท้องถิ่น
เคล็ดลับ: อ่านสรุปขั้นตอนการบรรจุและโทษทางวินัยให้เข้าใจแบบภาพรวม
8. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และแก้ไขเพิ่มเติม
งานสารบรรณเป็นเรื่องที่สำคัญในการทำงานราชการ ข้อสอบท้องถิ่นมักถาม:
- หลักการเขียนหนังสือราชการ
- รูปแบบของหนังสือราชการแต่ละประเภท
- ขั้นตอนการรับ-ส่งหนังสือ
เคล็ดลับ: จำหมวดหมู่ของหนังสือราชการ เช่น หนังสือภายใน หนังสือราชการภายนอก หนังสือสั่งการ
9. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
ข้อสอบท้องถิ่นอาจถามถึง:
- หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ธรรมาภิบาล 10 ประการ)
- แนวทางการบริหารภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้
เคล็ดลับ: จำหลัก 10 ประการให้ได้ เช่น หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความรับผิดชอบ ฯลฯ
10. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542
แม้การสอบท้องถิ่นส่วนใหญ่จะเน้น อบจ., เทศบาล และ อบต. แต่ “เมืองพัทยา” เป็นกรณีพิเศษที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลและมีการบริหารจัดการแตกต่างจากองค์กรท้องถิ่นทั่วไป
พ.ร.บ.นี้กำหนดโครงสร้างและรูปแบบการบริหารราชการเมืองพัทยาโดยเฉพาะ เช่น:
- ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดคือ “นายกเมืองพัทยา”
- มี “สภาเมืองพัทยา” ทำหน้าที่คล้ายสภาท้องถิ่นอื่น ๆ
- อำนาจหน้าที่ของเมืองพัทยา ครอบคลุมการพัฒนาเมือง การจัดบริการสาธารณะ และการส่งเสริมการท่องเที่ยว
หัวข้อที่มักออกสอบ:
- ใครเป็นผู้มีอำนาจบริหารสูงสุดของเมืองพัทยา?
- โครงสร้างของเมืองพัทยามีกี่สภา? ใครแต่งตั้ง?
- เมืองพัทยามีอำนาจหน้าที่แตกต่างจากเทศบาลอย่างไร?
เคล็ดลับ: เน้นจำภาพรวมโครงสร้าง และหน้าที่เฉพาะที่เมืองพัทยามีสิทธิทำได้เอง
11. พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 (เพิ่มเติม)
แม้เราจะพูดถึง พ.ร.บ.นี้ไปแล้ว แต่ควรขยายเพิ่มเติมว่าข้อสอบมักออกลึกไปถึง:
- การถ่ายโอนภารกิจจากราชการส่วนกลางสู่ท้องถิ่น
- ประเภทของภารกิจที่ถ่ายโอน (เช่น การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม)
- องค์กรที่กำกับดูแลการกระจายอำนาจ เช่น คณะกรรมการการกระจายอำนาจ
เคล็ดลับ: จำตัวอย่างภารกิจที่ท้องถิ่นได้รับโอน เช่น “จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่ตนเอง”
12. กฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
แม้จะไม่ได้เป็นวิชาหลักของภาค ก. ทุกปี แต่ในบางครั้งจะมีการออกข้อสอบเกี่ยวกับระเบียบพัสดุ เช่น:
- หลักการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการท้องถิ่น
- วิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส เช่น การประกาศประกวดราคา การทำสัญญา
- หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงบประมาณ
หัวข้อที่มักออกสอบ:
- หลักเกณฑ์พื้นฐาน เช่น ต้องประกาศเชิญชวนกี่วัน
- วิธีการจัดจ้างที่เลือกใช้ตามวงเงินงบประมาณ
เคล็ดลับ: อ่านสรุประเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่ย่อ ๆ เพื่อเข้าใจประเภทของการจัดซื้อ เช่น แบบสอบราคา, ประกวดราคา, e-bidding
13. กฎหมายอื่น ๆ ที่อาจออกเป็นพิเศษตามประกาศแต่ละปี
บางปีจะมีการกำหนดกฎหมายพิเศษเพิ่มเติม เช่น:
- พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 (เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ)
- พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร (เฉพาะตำแหน่งวิศวกร, สถาปนิกในท้องถิ่น)
- กฎหมายสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น
- ระเบียบเกี่ยวกับการเงิน การคลัง การพัสดุท้องถิ่น
เคล็ดลับ: ก่อนสอบจริงทุกครั้ง ควรเช็กประกาศสอบให้ละเอียด ว่าปีนั้นระบุให้ต้องอ่านกฎหมายพิเศษฉบับใดเพิ่มเติมหรือไม่

กฎหมายเสริมและกฎหมายเฉพาะทางที่ควรรู้
นอกจากกฎหมายหลักที่ออกสอบท้องถิ่นเป็นประจำแล้ว ยังมีกฎหมายบางฉบับที่ถือเป็น “กฎหมายเสริม” และ “กฎหมายเฉพาะทาง” ซึ่งในบางปี หรือบางตำแหน่งสอบ อาจมีการระบุให้อ่านเพิ่มเติมโดยเฉพาะ
แม้กฎหมายเหล่านี้จะไม่ได้ออกสอบทุกปี แต่การเตรียมตัวให้รอบด้าน และเข้าใจเนื้อหาเบื้องต้น จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบ และทำให้คุณพร้อมรับมือกับข้อสอบในทุกรูปแบบ
ในส่วนนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับกฎหมายเสริมสำคัญ ๆ ที่ควรรู้เพิ่มเติมสำหรับการสอบท้องถิ่น ภาค ก. เพื่อไม่ให้พลาดคะแนนสำคัญในข้อสอบ
14. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
เกี่ยวกับสิทธิของประชาชนในการขอเข้าถึงข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เช่น:
- ประชาชนมีสิทธิขอดูเอกสารราชการ
- หน่วยงานต้องเปิดเผยข้อมูลอะไรบ้าง
- กรณีใดที่ข้อมูลต้องปกปิด
ข้อสอบที่เคยออก:
- หน่วยงานมีเวลากี่วันในการเปิดเผยข้อมูลตามคำร้องขอของประชาชน?
เคล็ดลับ: เน้นอ่านเรื่องสิทธิในการขอดูข้อมูล และข้อยกเว้นที่ไม่ต้องเปิดเผย
15. พระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 (ฉบับหลัก)
แม้จะพูดถึงในข้อ 12 แล้วเบื้องต้น แต่ถ้าปีไหนประกาศสอบชัด ๆ ว่าออกแน่ ต้องอ่านฉบับนี้โดยตรง เช่น:
- วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง (วิธีเฉพาะเจาะจง, วิธีคัดเลือก, e-bidding)
- ขั้นตอนการประมูล ราคา และสัญญา
ข้อสอบที่เคยออก:
- การจัดซื้อโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ใช้ได้ไม่เกินวงเงินเท่าไร?
เคล็ดลับ: ถ้าไม่ระบุชัด ก็อ่านแค่ภาพรวม แต่ถ้าระบุ ต้องอ่านลึกเรื่อง “วงเงิน” และ “กระบวนการอนุมัติ”
16. กฎหมายเฉพาะสายงาน เช่น
- พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร (ถ้าสอบตำแหน่งวิศวกร, สถาปนิก)
- พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 (ถ้าสอบนักวิชาการสาธารณสุข)
- พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (ถ้าสอบสายงานด้านการศึกษา)
ข้อสอบเฉพาะทางแบบนี้ จะระบุในประกาศสอบของตำแหน่งนั้น ๆ เลย ไม่ใช่ของภาค ก. ทั่วไป
ความเชื่อมโยงของกฎหมายที่ออกสอบบ่อย
ในการสอบท้องถิ่น ภาค ก. ความเข้าใจแบบแยกกฎหมายเป็นฉบับ ๆ ถือว่าสำคัญ แต่สิ่งที่ทำให้คุณเหนือกว่าคู่แข่งคือการ “เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายแต่ละตัว”
ตัวอย่างเช่น:
- รัฐธรรมนูญ คือกรอบใหญ่สุด ➔ กำหนดสิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ของรัฐและประชาชน
- พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ➔ กำหนดโครงสร้างราชการ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น
- พ.ร.บ.อบจ., พ.ร.บ.เทศบาล, พ.ร.บ.สภาตำบลและอบต. ➔ เป็นกฎหมายลูกที่กำหนดการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละระดับ
- พ.ร.บ.กระจายอำนาจ ➔ หนุนเสริมให้ท้องถิ่นมีอำนาจจัดการตัวเองได้มากขึ้น
- พ.ร.บ.บริหารงานบุคคลท้องถิ่น ➔ ว่าด้วยการดูแลคนทำงานในท้องถิ่น
- พรฎ.บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ➔ กำกับให้ทุกองค์กรใช้หลักธรรมาภิบาล
สรุปง่าย ๆ:
รัฐธรรมนูญ ➔ โครงสร้างใหญ่ ➔ ราชการแผ่นดิน ➔ ท้องถิ่น ➔ กระจายอำนาจ ➔ บุคลากรท้องถิ่น ➔ วิธีบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล
เมื่อเข้าใจโครงนี้ คุณจะไม่รู้สึกว่ากฎหมายแยกขาดจากกันอีกต่อไป แต่จะมองเห็น “ภาพรวมการทำงานจริงของราชการท้องถิ่น” ซึ่งจะช่วยให้ตอบข้อสอบได้ง่ายขึ้นแม้โจทย์จะพลิกแพลง
เคล็ดลับการอ่านกฎหมายเพื่อสอบท้องถิ่น
- อ่านโครงสร้างก่อน อย่ารีบอ่านมาตรา ให้เข้าใจภาพรวมก่อนว่ากฎหมายฉบับนี้พูดถึงเรื่องอะไร
- สรุปเนื้อหาเอง ไม่ต้องจำทุกถ้อยคำ แต่ต้องจับใจความหลักให้ได้
- ฝึกทำข้อสอบทันทีหลังอ่าน เพื่อเช็กว่าเข้าใจจริงหรือไม่
- จำเปรียบเทียบกัน เช่น อบจ. ต่างจาก เทศบาล อย่างไร, อบต. ต่างจากอบจ. อย่างไร
- ทำสรุป Bullet Point สำหรับกฎหมายที่มีรายละเอียดเยอะ เช่น หน้าที่ขององค์กรต่าง ๆ
ตัวอย่างแนวข้อสอบจริงที่อิงจากกฎหมาย
เพื่อเห็นภาพว่าข้อสอบท้องถิ่น ภาค ก. ออกจากกฎหมายเหล่านี้อย่างไร นี่คือตัวอย่าง:
ตัวอย่างข้อ 1: (อิงรัฐธรรมนูญ)
สิทธิในข้อใดถือเป็น “สิทธิพลเมือง” ตามรัฐธรรมนูญ?
ก. สิทธิในการเลือกตั้ง
ข. สิทธิในการศึกษา
ค. สิทธิในการประกอบอาชีพ
ง. สิทธิในชีวิตและร่างกาย
เฉลย: ก. สิทธิในการเลือกตั้ง
ตัวอย่างข้อ 2: (อิง พ.ร.บ.อบจ.)
ใครเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)?
ก. ปลัด อบจ.
ข. นายก อบจ.
ค. ประธานสภา อบจ.
ง. ผู้อำนวยการกองการศึกษา
เฉลย: ข. นายก อบจ.
ตัวอย่างข้อ 3: (อิง พรฎ.บ้านเมืองที่ดี)
หลักธรรมาภิบาลประการใดที่เน้นการตรวจสอบและความโปร่งใสในการบริหารราชการ?
ก. หลักประสิทธิภาพ
ข. หลักนิติธรรม
ค. หลักความโปร่งใส
ง. หลักประสิทธิผล
เฉลย: ค. หลักความโปร่งใส
หมายเหตุ: แนวข้อสอบมักไม่ได้ถามคำถามตรง ๆ จากกฎหมายเสมอไป แต่อาจซ่อนอยู่ในสถานการณ์ หรือคำถามเชิงประยุกต์ ดังนั้นยิ่งเข้าใจสาระจริง ยิ่งได้เปรียบ
เทคนิคจดจำกฎหมายแบบเร่งรัด
ถ้าคุณมีเวลาเตรียมตัวน้อย หรืออยากประหยัดเวลาในการจำกฎหมาย นี่คือเทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง:
1. จำแค่ “สาระสำคัญ” 3–5 จุด ต่อกฎหมาย
ไม่จำเป็นต้องท่องทุกมาตรา แต่ต้องจำ “หัวใจหลัก” เช่น:
- พ.ร.บ.อบจ. = นายก อบจ. / สภา อบจ. / บริหารจังหวัด
- พ.ร.บ.เทศบาล = แบ่งเทศบาลนคร, เมือง, ตำบล
- พ.ร.บ.อปท. = องค์กรปกครองตำบล งานใกล้ชุมชน
- พ.ร.บ.กระจายอำนาจ = ท้องถิ่นมีอำนาจมากขึ้น เช่น การศึกษา ทรัพยากรธรรมชาติ
2. จำด้วย “Keyword” ไม่ใช่ “ประโยคเต็ม”
ตัวอย่าง Keyword:
- อบจ. = จังหวัด
- เทศบาล = ชุมชนเมือง
- อบต. = ชุมชนชนบท
- กระจายอำนาจ = พึ่งตนเอง
- บุคลากรท้องถิ่น = บรรจุ โยกย้าย วินัย
เพียงแค่มี “ตัวเกี่ยวโยง” ในหัว เวลาทำข้อสอบจะเชื่อมโยงได้ทันที
3. ฝึกตอบคำถามแบบอธิบายด้วยตัวเอง
หลังอ่านแต่ละกฎหมาย ลองตั้งคำถามเอง แล้วตอบด้วยภาษาตัวเอง เช่น:
- อบจ. มีหน้าที่อะไร? ➔ ตอบเองสั้น ๆ
- กระจายอำนาจทำให้เกิดอะไร? ➔ ตอบเองใน 2–3 ประโยค
การทำแบบนี้จะฝังความเข้าใจลงในสมองดีกว่าการอ่านเงียบ ๆ หลายเท่า
สรุป
การพิชิต “สอบท้องถิ่น” ภาค ก. ในหมวดกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องของการท่องจำตัวบทมาตราให้ได้มากที่สุด แต่คือการเข้าใจโครงสร้างข้อสอบ กฎเกณฑ์ และบทบาทหน้าที่ที่แท้จริงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การอ่านกฎหมายอย่างมีแผน — เริ่มจากการเข้าใจภาพรวมของแต่ละฉบับ เชื่อมโยงเนื้อหาเข้าด้วยกัน และวิเคราะห์แนวข้อสอบท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง — คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณทำข้อสอบได้อย่างมั่นใจ และเพิ่มโอกาสสอบผ่านภาค ก. ได้ในครั้งเดียว แท้จริงแล้ว การสอบกฎหมายในภาค ก. ไม่ได้วัดแค่ว่าใครจำตัวบทได้มากที่สุด แต่เน้นวัดว่าใคร “เข้าใจแก่นสาระของกฎหมาย” และ “สามารถประยุกต์ใช้ความรู้กับสถานการณ์จริง” ได้ดีกว่ากัน
หากคุณฝึกเชื่อมโยงกฎหมายแต่ละฉบับเป็นโครงสร้างเดียวกัน เข้าใจบริบทการทำงานของราชการท้องถิ่น และฝึกตอบแนวข้อสอบเชิงสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ
คุณจะไม่เพียงแค่สามารถทำข้อสอบได้ดีเท่านั้น แต่ยังพร้อมสำหรับการเป็นข้าราชการที่มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างแท้จริง และสามารถทำงานรับใช้สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต