สอบท้องถิ่นไม่ยากเกินไป ถ้าเตรียมตัวให้ถูกจุด
สำหรับใครที่ตั้งเป้าจะสอบติดข้าราชการท้องถิ่น การสอบภาค ก. คือด่านแรกที่ต้องผ่านให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลว่า “ข้อสอบเยอะ เนื้อหากว้าง ต้องจำกฎหมาย ภาษาไทย อังกฤษ วิเคราะห์กราฟ จะรอดไหม?”
ความจริงคือ — สอบท้องถิ่นไม่ใช่ข้อสอบที่ยากเกินไป แต่จะผ่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า “คุณเตรียมตัวอย่างมีกลยุทธ์แค่ไหน”
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 7 เทคนิคการเตรียมตัวสอบท้องถิ่น ภาค ก. ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณ ผ่านได้ในครั้งเดียว
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มอ่าน หรือสอบรอบที่แล้วไม่ผ่าน บทนี้จะเป็นคู่มือที่คุณพกติดตัวได้ตลอดเส้นทางเตรียมสอบ

เทคนิคที่ 1: อ่านแบบ “เข้าใจภาพรวม” ก่อนลงลึก
ทำไมต้องเริ่มจากภาพรวมก่อน?
หนึ่งในความผิดพลาดที่ผู้สมัครสอบท้องถิ่นหลายคนทำ คือกระโดดลงไปอ่านหนังสือทันทีโดยไม่รู้ว่า:
- ต้องสอบกี่หมวด?
- แต่ละหมวดออกกี่ข้อ?
- วิชาไหนยาก/ง่ายสำหรับตัวเอง?
- ข้อสอบมีจุดเน้นอะไร?
ผลลัพธ์คืออ่านกระจาย ไม่เป็นระบบ เก็บคะแนนไม่ได้เต็มที่ในหมวดที่ควรเน้น ➔ พลาดคะแนนรวมในที่สุด
วิธี “เข้าใจภาพรวม” ให้แม่นก่อนเริ่มอ่าน
1. ศึกษาโครงสร้างข้อสอบอย่างละเอียด
สอบท้องถิ่น ภาค ก. โดยทั่วไป แบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่:
- ความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์ และสรุปเหตุผล
- ความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ (เน้นกฎหมาย)
- ภาษาไทย
- ภาษาอังกฤษ
บางปีอาจมีเปลี่ยนแปลง หรือรวมหมวด แต่โครงสร้างโดยรวมไม่ต่างจากนี้มาก
2. รู้ “น้ำหนักคะแนน” และจัดลำดับความสำคัญ
ตัวอย่างน้ำหนักคะแนนโดยประมาณ (แตกต่างกันได้เล็กน้อยตามหน่วยสอบ):
หมวด | น้ำหนักโดยประมาณ | เป้าหมายสำหรับมือใหม่ |
วิเคราะห์เหตุผล | 25–30% | เก็บคะแนนให้ได้มากสุด |
กฎหมาย/ราชการ | 30–40% | ต้องอ่านลึกที่สุด |
ภาษาไทย | 15–20% | ทำคะแนนให้แน่นพอควร |
ภาษาอังกฤษ | 10–15% | ขอแค่ไม่ตกก็เพียงพอ |
สังเกต: หมวดกฎหมายและวิเคราะห์เหตุผลมักเป็นหมวดที่ “ชี้ชะตา” การสอบผ่าน
3. ประเมินตัวเองก่อนวางแผน
ลองตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเอง:
- เราเก่งภาษาไทยไหม? ถ้าไม่ ➔ ฝึกจับใจความยังไงดี?
- เราอ่านกฎหมายรู้เรื่องไหม? ถ้าไม่ ➔ ต้องเริ่มจากสรุปภาพใหญ่
- เราเคยฝึกทำข้อสอบวิเคราะห์มาก่อนหรือยัง?
ถ้าคุณตอบได้อย่างตรงไปตรงมา จะรู้ทันทีว่าแต่ละหมวดต้อง “เสริมแรง” แค่ไหน
สรุปแผนการเข้าใจภาพรวมแบบ 3 ขั้นตอน
- วางแผนเป้าหมายในแต่ละหมวด
- หมวดไหน “หวังคะแนนเต็ม”
- หมวดไหน “รอดแบบไม่พลาด”
- หมวดไหน “หวังคะแนนเต็ม”
- อ่านโครงสร้างข้อสอบย้อนหลัง 3–5 ปี
- จะรู้แนวโน้มว่าข้อสอบเน้นอะไร
- เจอคำถามคล้าย ๆ กันซ้ำ ๆ
- จะรู้แนวโน้มว่าข้อสอบเน้นอะไร
- สร้าง “แผนภาพรวม” บนกระดาษ 1 แผ่น
- วาดเป็นตาราง: หมวดวิชา | เป้าหมาย | สถานะตอนนี้ | แผนอ่าน
- แปะไว้ที่โต๊ะหรือหน้าสมุดจดเป้าหมาย
- วาดเป็นตาราง: หมวดวิชา | เป้าหมาย | สถานะตอนนี้ | แผนอ่าน
ข้อดีของการเข้าใจภาพรวมก่อน
- คุณจะไม่สับสนระหว่างเนื้อหา
- ไม่หลงทางตอนอ่าน
- ประหยัดเวลา เพราะรู้ว่าอะไรสำคัญกว่า
- และที่สำคัญที่สุด…มีแผนการสอบที่ควบคุมได้จริง

เทคนิคที่ 2: วางแผนการอ่านแบบรายสัปดาห์ (อย่างไรให้ไม่ล้มกลางทาง)
Shark โอเคไหมครับกับความลึกระดับนี้?
หรืออยากให้เพิ่มภาพประกอบ/ตัวอย่างตารางวางแผนรายสัปดาห์ด้วยในการเขียนข้อถัดไปครับ?
ทำไมการ “วางแผน” ถึงสำคัญกว่า “ตั้งใจ”?
หลายคนสอบไม่ผ่าน ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ…
แต่เพราะไม่มีแผน → อ่านกระจัดกระจาย → ขาดความต่อเนื่อง → ท้อกลางทาง → สอบไม่ผ่านทั้งที่ตั้งใจ
การวางแผนแบบรายสัปดาห์จะช่วยให้คุณ:
- รู้ว่าต้องอ่านอะไรในแต่ละวัน
- ประเมินความคืบหน้าได้จริง
- มีความรู้สึกว่า “ใกล้เป้าหมายขึ้นทุกวัน”
และที่สำคัญคือ…คุณจะเลิกรู้สึกว่า “ต้องอ่านเยอะมากจนไม่รู้จะเริ่มยังไง”
โครงสร้างแผนรายสัปดาห์ (เหมาะกับคนทำงานประจำ/เรียนไปด้วย)
1. สัปดาห์ที่ 1–2: ปูพื้นฐานกฎหมาย
- อ่านภาพรวม พ.ร.บ. ทั้งชุด (อบจ., เทศบาล, อบต., กระจายอำนาจ)
- อ่านสรุปรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน
- ดูคลิปสรุปกฎหมายวันละ 20–30 นาที
- ทบทวนด้วย flashcard หรือ post-it สั้น ๆ
2. สัปดาห์ที่ 3: วิเคราะห์เหตุผล – คณิตศาสตร์ – กราฟ
- ฝึกอ่านตาราง กราฟ และตีโจทย์
- วันเว้นวันให้ทำข้อสอบเฉพาะวิเคราะห์อย่างน้อยวันละ 15 ข้อ
- จับเวลา 1 ชุด = 25 นาที เพื่อฝึกความเร็ว
3. สัปดาห์ที่ 4: ภาษาไทย
- วันจันทร์/พฤหัส: ฝึกจับใจความ (อ่านย่อหน้า → ตอบคำถาม)
- วันอังคาร/ศุกร์: ฝึกเรียงประโยค และสรุปความ
- เสาร์/อาทิตย์: ทำชุดข้อสอบเก่าแบบจับเวลา
4. สัปดาห์ที่ 5: ภาษาอังกฤษ
- แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก:
- Vocabulary (ศัพท์ออกบ่อย เช่น advise, policy, issue)
- Reading Comprehension (ฝึกวันเว้นวัน)
- Grammar เบื้องต้น (subject–verb, tense, คำเชื่อม)
- Vocabulary (ศัพท์ออกบ่อย เช่น advise, policy, issue)
- ใช้แอปศัพท์ (เช่น Anki, Quizlet) ฝึกทุกวัน
5. สัปดาห์ที่ 6: ฝึกสอบจำลอง
- ทำข้อสอบรวม 100 ข้อแบบจับเวลา
- ตรวจทันที → วงข้อผิด → จดสาเหตุที่พลาด
- ทบทวนเฉพาะ “จุดอ่อน” ในวันถัดไป
6. สัปดาห์ที่ 7: สรุปเนื้อหาทั้งหมด + ทบทวน
- ย้ำ keyword สำคัญจากกฎหมาย
- ทำข้อสอบแบบสุ่มจากทุกวิชา
- ปิดท้ายด้วย Simulation Day อีก 1 วัน
เคล็ดลับสำคัญ: วางแผนแบบ “ยืดหยุ่น แต่ไม่เลื่อน”
- กำหนดว่าแต่ละวัน “ต้องทำให้เสร็จอะไร”
- ถ้าพลาด 1 วัน → ให้เรียนชดเชยในวันเสาร์
- แต่อย่าเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ จนแผนพัง
ตัวอย่างตารางสั้น ๆ (ของมือใหม่ที่มีเวลาแค่วันละ 1 ชม.)
วัน | วิชา | กิจกรรม |
จันทร์ | กฎหมาย | อ่าน พ.ร.บ.อบจ. + ทำสรุป |
อังคาร | วิเคราะห์ | ทำข้อสอบ 10 ข้อ |
พุธ | ภาษาไทย | ฝึกจับใจความ |
พฤหัส | กฎหมาย | อ่าน พ.ร.บ.กระจายอำนาจ |
ศุกร์ | ภาษาอังกฤษ | ท่องศัพท์ + grammar 15 นาที |
เสาร์ | ทบทวน | อ่านสรุปย้อนหลัง |
อาทิตย์ | ฝึกสอบ | ทำข้อสอบจับเวลา 50 ข้อ |
ถ้าไม่มีแผน = ไม่มีทิศทาง
“การไม่มีแผนในการสอบ ก็เหมือนการไปสนามสอบโดยไม่มีเข็มทิศ”
อย่าให้ความตั้งใจสูญเปล่าเพราะอ่านผิดจุด!

เทคนิคที่ 3: อ่านกฎหมายแบบ “ไม่ท่องจำ” แต่เข้าใจ
ทำไม “การท่องจำ” ถึงเป็นกับดัก?
หนึ่งในความเข้าใจผิดของผู้สอบท้องถิ่นคือ
“กฎหมายต้องจำทุกมาตรา ถึงจะสอบผ่าน”
ความจริงคือ:
ข้อสอบภาค ก. ไม่ได้ถามให้คุณจำมาตราเลขที่ เช่น “มาตรา 28 ว่าอะไร”
แต่ถามให้คุณเข้าใจ หลักการ โครงสร้าง และการประยุกต์ใช้กับสถานการณ์
และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้คนที่อ่าน “แบบเข้าใจ” ได้เปรียบมหาศาล
เป้าหมายของการอ่านกฎหมายเพื่อสอบ
ไม่ใช่แค่จำว่า “อบจ. มีสภา อบจ. กับนายก อบจ.”
แต่ต้องรู้ว่า:
- ใครมีอำนาจอะไร?
- หน้าที่หลักขององค์กรนั้นคืออะไร?
- องค์กรนั้นแตกต่างจากองค์กรท้องถิ่นอื่นอย่างไร?
- ถ้ามีสถานการณ์เกิดขึ้น ใครต้องตัดสินใจ?
4 ขั้นตอน “อ่านกฎหมายให้เข้าใจ ไม่ใช่ท่อง”
✅ ขั้นตอนที่ 1: เริ่มจาก “สรุปภาพรวม” ก่อน
ก่อนจะลงลึกในมาตราใด ๆ
ควรเข้าใจก่อนว่า:
- กฎหมายฉบับนี้กำกับอะไร?
- เกี่ยวกับหน่วยงานไหน?
- โครงสร้างอำนาจคืออะไร?
ตัวอย่างเช่น:
พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด
– เป็นกฎหมายว่าด้วย “การบริหารท้องถิ่นระดับจังหวัด”
– โครงสร้างประกอบด้วย นายก อบจ. และ สภา อบจ.
– อำนาจเน้นเรื่องสาธารณูปโภคระดับจังหวัด การวางผังเมือง ฯลฯ
✅ ขั้นตอนที่ 2: ทำ Mind Map หรือผังอำนาจ
ให้วาดโครงสร้างแบบนี้ (ไม่ต้องสวยก็ได้):
อบจ.
├── นายก อบจ. (ฝ่ายบริหาร)
├── สภา อบจ. (ฝ่ายนิติบัญญัติ)
└── ข้าราชการส่วนท้องถิ่น
แล้วจดข้าง ๆ ว่าใครทำหน้าที่อะไร ใครเลือกตั้ง ใครแต่งตั้ง ใครเสนอ/อนุมัติงบประมาณ ฯลฯ
ผังเดียว จำได้ทั้งโครงสร้างกฎหมาย
✅ ขั้นตอนที่ 3: อ่านแบบ “ตั้งคำถาม”
แทนที่จะอ่านเฉย ๆ ลองตั้งคำถามกับตัวเองแบบนี้:
- ถ้านายก อบจ. ลาออก ใครรักษาการ?
- ถ้าสภาไม่อนุมัติงบประมาณ จะเกิดอะไรขึ้น?
- หน่วยงานนี้เกี่ยวอะไรกับประชาชน?
การถามแบบนี้จะ “บังคับให้คุณเข้าใจ” โดยอัตโนมัติ
นี่คือเทคนิคที่นักสอบสายลึกใช้กันจริง
✅ ขั้นตอนที่ 4: อ่านข้อสอบเก่าเพื่อ “เช็กความเข้าใจ”
อย่าอ่านกฎหมายโดยไม่มีบริบท
พออ่านจบหัวข้อ เช่น พ.ร.บ.อบต. ➔ ให้ลองทำข้อสอบทันที 5–10 ข้อ
จะรู้เลยว่า:
- เราเข้าใจแค่ไหน?
- ยังสับสนจุดไหน?
- คำถามที่ออกจริงถามยังไง?
เมื่อข้อสอบยืนยันว่า “เรารู้จริง” — สมองจะจำแบบฝังลึกทันที
เทคนิคพิเศษ: วิธีจำแบบ “Keyword Mapping”
บางครั้งคุณไม่ต้องจำทั้งประโยค แค่จับ “คำเชื่อม” สำคัญพอ เช่น
- “อบต.” = ตำบล, ใกล้ชุมชน, งานบริการพื้นฐาน
- “อบจ.” = จังหวัด, ผังเมือง, ถนนสายรอง
- “เทศบาล” = เมือง, เขตเมือง, การศึกษา/สุขาภิบาล
- “เมืองพัทยา” = มีโครงสร้างเฉพาะ, นายกพัทยา, คณะกรรมการพัทยา
แบบนี้จะช่วยให้คุณ เชื่อมคำถามกับคำตอบได้ไว เวลาสอบจริง
ตัวอย่างโจทย์ที่ “ไม่ท่องก็ทำได้”
ข้อใดกล่าวถึงหน้าที่ของนายก อบจ. ได้ถูกต้อง?
ก. แต่งตั้งรองนายก อบจ. โดยความเห็นชอบของสภา อบจ.
ข. อนุมัติงบประมาณประจำปีโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของสภา
ค. แต่งตั้งปลัด อบจ. ได้โดยตรง
ง. เสนอร่างข้อบัญญัติ อบจ. ให้สภา อบจ. พิจารณา
เฉลย: ง.
(ใครเข้าใจบทบาทของฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติจะตอบได้โดยไม่ต้องจำมาตราใดเลย)
สรุปเทคนิคนี้สั้น ๆ:
📌 อ่าน = เข้าใจ “โครงสร้าง” และ “บริบท”
📌 สรุป = ด้วยแผนภาพ หรือ Bullet Note
📌 จำ = ด้วยคำเชื่อมและตัวอย่างสถานการณ์
📌 เช็ก = ด้วยข้อสอบจริงทันทีหลังอ่าน
🎯 เทคนิคนี้จะทำให้คุณ “กลายเป็นคนอ่านกฎหมายได้ไวขึ้นเรื่อย ๆ” และเข้าใจมากกว่าท่องจำ
ซึ่งสำคัญมากในการพิชิตข้อสอบท้องถิ่นภาค ก.

เทคนิคที่ 4: ฝึกทำข้อสอบ “จับเวลา” เสมือนจริง
ทำไมการจับเวลาคือหัวใจของการ “สอบผ่านจริง”?
หลายคนอ่านหนังสือเก่ง ทำข้อสอบแยกเป็นข้อ ๆ ได้
แต่พอวันสอบจริง — กลับลน ไม่ทันเวลา ทำผิดพลาดง่าย ๆ เพราะ “ไม่เคยซ้อมสนามจริง”
การสอบท้องถิ่น ภาค ก. ไม่ได้วัดแค่ความรู้
แต่วัด “ความพร้อม ความแม่น และความเร็ว” ในสถานการณ์กดดัน
และวิธีฝึกที่ดีที่สุดคือ: ฝึกทำข้อสอบแบบเสมือนจริง
เป้าหมายของเทคนิคนี้:
- สร้างความเคยชินกับข้อสอบเต็มชุด
- ฝึกสมาธิให้อยู่กับข้อสอบต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง
- ประเมินจุดแข็ง–จุดอ่อนของตัวเองอย่างแม่นยำ
- ลดความตื่นสนามในวันสอบจริง
วิธีฝึกทำข้อสอบเสมือนจริงให้ได้ผลจริง
✅ 1. เลือกข้อสอบที่ “ใกล้เคียงสนามจริงที่สุด”
- ใช้ข้อสอบเก่าย้อนหลังของการสอบท้องถิ่น (หาง่ายตามกลุ่ม Facebook, เว็บไซต์ติวสอบ, หนังสือสอบ)
- ถ้าไม่มีชุดเต็ม ให้รวมข้อสอบแยกวิชาให้ครบ 100 ข้อ
ข้อแนะนำ:
ใช้ข้อสอบที่แบ่งหมวดชัดเจน เช่น วิเคราะห์ | ภาษาไทย | กฎหมาย | อังกฤษ
เพื่อประเมินแต่ละวิชาได้
✅ 2. จับเวลาให้เป๊ะ (เช่น 100 ข้อ = 120 นาที)
- ตั้งนาฬิกาหรือจับเวลาในมือถือ
- ใช้ดินสอ-กระดาษเหมือนวันสอบจริง
- ไม่ลุก ไม่เปิดหนังสือ ไม่ดูคำตอบ
- นั่งในโต๊ะเงียบ ๆ ไม่มีสิ่งรบกวน
เหมือนซ้อมสอบจริงทุกอย่าง เพราะเป้าหมายคือ “ฝึกสมองและสมาธิ” ไม่ใช่แค่หาคำตอบ
✅ 3. ตรวจคำตอบทันทีหลังสอบเสร็จ
- วงข้อผิดและจดว่า “ผิดเพราะอะไร” เช่น:
- อ่านโจทย์ไม่ละเอียด
- คิดเลขพลาด
- ไม่เข้าใจศัพท์
- จำบทบาทองค์กรผิด
- อ่านโจทย์ไม่ละเอียด
Tip: ทำตารางบันทึกแบบนี้:
หมวด | ข้อที่ผิด | สาเหตุ |
กฎหมาย | 12, 27, 41 | จำโครงสร้างอบจ. สลับกับอบต. |
ภาษาไทย | 55, 57 | อ่านจับใจความพลาด |
อังกฤษ | 91, 98 | ศัพท์ไม่รู้ |
จากนั้นนำไป “วางแผนแก้จุดอ่อน” ในสัปดาห์ต่อไป
✅ 4. ทบทวนเฉพาะ “ข้อที่ผิด” ภายใน 24 ชั่วโมง
สมองจะจำได้ดีที่สุดถ้าทบทวนทันทีหลังสอบ
ให้ใช้เวลาทบทวนแค่ 30 นาทีพอ ไม่ต้องอ่านใหม่หมด
แต่อ่านเฉพาะประเด็นที่ทำผิด เช่น:
- ข้อ 41: เข้าใจผิดว่าสภาอบจ. แต่งตั้งนายก – ❌ (จริง ๆ คือประชาชนเลือกตั้ง)
แบบนี้จะช่วยให้ความเข้าใจ “แน่นขึ้นทีละชั้น”
✅ 5. ฝึกสอบจำลองแบบนี้ทุกสัปดาห์ (1–2 ครั้ง)
อย่ารอใกล้สอบถึงจะเริ่ม
เพราะ “การสอบซ้อมหลายรอบ = ความเคยชินที่ลบความกลัว” ได้จริง
เคล็ดลับเสริม: ทำ “Mini Test” ระหว่างสัปดาห์
ถ้าไม่มีเวลาเต็ม 2 ชั่วโมง ให้ทำ:
- Mini Test วิชาวิเคราะห์ = 20 ข้อ 25 นาที
- Mini Test ภาษาไทย = 15 ข้อ 20 นาที
- Quiz กฎหมายแบบจับเวลา 10 ข้อทุกวัน
ข้อดี: ฝึกความแม่น + ฝึกสมองให้ตื่นตัวทุกวัน
ผล: วันสอบจริงจะรู้จังหวะของตัวเอง — ไม่ตื่นสนาม
ประโยชน์มหาศาลจากการฝึกสอบเสมือนจริง
✅ สมองชินกับการคิดต่อเนื่อง
✅ ฝึกอ่านโจทย์ไว ตีโจทย์แม่น
✅ คุมเวลาได้ดีกว่าคนที่ไม่ฝึก
✅ ลดความกังวลในวันสอบจริง
✅ รู้จุดอ่อนของตัวเองชัดเจนและแก้ได้ทัน
สรุปเทคนิคนี้:
“อย่าให้วันสอบจริง เป็นครั้งแรกที่คุณเจอข้อสอบเต็มชุด”
เพราะการสอบให้ผ่านในครั้งเดียว ไม่ได้วัดแค่ “ใครรู้มาก”
แต่วัดว่า “ใครพร้อมก่อน” ต่างหาก

เทคนิคที่ 5: ทบทวนด้วย Spaced Repetition (จำแม่นแบบไม่ต้องท่องซ้ำ)
ปัญหาของการอ่านแบบเดิม ๆ:
เคยไหม? อ่านหนังสือวันนี้… อีก 5 วันผ่านไปจำอะไรไม่ได้เลย
หรือจำได้ตอนอ่าน แต่พอเจอในข้อสอบ กลับตอบผิดเพราะหลงลืม
เพราะเราใช้วิธีท่องจำแบบ “ยัดเยียด” ซึ่งสมองลืมเร็วมาก
แล้ว Spaced Repetition คืออะไร?
Spaced Repetition = การทบทวนแบบเว้นระยะ
เป็นการทบทวนซ้ำเป็นรอบ ๆ ในช่วงเวลาที่ “สมองกำลังเริ่มลืม”
ซึ่งจะกระตุ้นให้สมอง “ดึงข้อมูลกลับมา” และจดจำได้แน่นขึ้นทุกครั้งที่ทบทวน
ยิ่งทบทวนในจังหวะที่เหมาะสม ความจำจะยิ่งถาวร
ไม่ต้องท่องซ้ำ 10 รอบในวันเดียว แต่ทบทวน 3 รอบให้ดี จะจำได้นานกว่า
ตารางทบทวนแบบ Spaced Repetition ที่ใช้ได้จริง:
หลังจากคุณเรียนหรืออ่านเนื้อหา 1 หัวข้อ ให้ทบทวนตามรอบนี้:
รอบ | เวลาทบทวนหลังจากเรียน | วิธีทบทวน |
รอบที่ 1 | ภายใน 24 ชั่วโมง | ทบทวนด้วย Note สั้น ๆ หรือ Flashcard |
รอบที่ 2 | วันที่ 3–4 | ทำแบบฝึกหัดสั้น หรือ Mini Quiz |
รอบที่ 3 | วันที่ 7–10 | ทบทวน Keyword + ทำข้อสอบจริง |
รอบที่ 4 | สัปดาห์ที่ 3–4 | ทบทวนภาพรวมทั้งหมวดด้วย Mind Map |
รอบสุดท้าย | สัปดาห์ก่อนสอบ | ทบทวนแบบจำลองข้อสอบเสมือนจริง |
ตัวอย่างการใช้กับเนื้อหาสอบท้องถิ่น
เช่น หัวข้อ “พ.ร.บ.อบจ.”
- วันแรก: อ่านสรุป+วาดผังโครงสร้าง
- วันที่ 2: ทบทวน keyword เช่น “นายก อบจ. = บริหาร”, “สภา อบจ. = พิจารณางบ”
- วันที่ 4: ทำข้อสอบ 10 ข้อเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นี้
- วันที่ 8: ทบทวน Note สรุปในคำพูดตัวเอง
- สัปดาห์ที่ 4: ทำข้อสอบรวมแบบจำลอง (ที่มี พ.ร.บ.นี้ปนอยู่)
เครื่องมือช่วยทบทวนแบบ Spaced Repetition
✅ 1. Flashcards (ทำมือ / ใช้แอปก็ได้)
- เขียนคำถามหน้าแรก → คำตอบด้านหลัง
- เช่น หน้า: “อบต. มีโครงสร้างอะไรบ้าง?”
หลัง: “นายก อบต. / สภา อบต. / ปลัด อบต.”
แอปแนะนำ: Anki, Quizlet (ใช้ฟรี)
✅ 2. ใช้ Google Sheets ทำ “ตารางทบทวนเฉพาะตัว”
หัวข้อ | วันที่เริ่มอ่าน | รอบ 1 | รอบ 2 | รอบ 3 | ความมั่นใจ (1–5) |
พ.ร.บ.อบจ. | 1 พ.ค. | 2 พ.ค. | 4 พ.ค. | 9 พ.ค. | 3 |
→ ช่อง “ความมั่นใจ” ให้คุณให้คะแนนตัวเองว่าจำได้แค่ไหน
ถ้าคะแนนต่ำ ให้เพิ่มรอบทบทวนในรอบถัดไป
✅ 3. ใช้เสียงตัวเองอัดอธิบาย แล้วฟังซ้ำ
เหมาะกับคนที่เรียนรู้ด้วยการฟัง (Auditory Learner)
แค่เปิดมือถือแล้วอัดเสียงตัวเองพูดสรุป เช่น:
“พ.ร.บ.อบจ. มีโครงสร้าง 2 ฝ่าย คือ นายก กับ สภา…”
ฟังตอนขับรถ เดินทาง หรือก่อนนอน — ได้ผลมาก!
สรุปเทคนิคนี้:
อ่านครั้งเดียว… สมองจำ 20%
อ่านครั้งที่สองในเวลาที่ถูกต้อง → สมองจำ 60–70%
ทบทวนรอบสุดท้ายก่อนสอบ → ความจำเข้าใกล้ 90–100%
📌 Spaced Repetition จึงไม่ใช่แค่วิธีจำ
แต่คือ กลยุทธ์การจดจำอย่างยั่งยืน ที่ใช้พลัง “สมอง vs เวลา” อย่างชาญฉลาด
ประโยคจำง่าย:
❌ “จำให้หมดก่อนสอบ”
✅ “จำให้นานตั้งแต่ต้น”

เทคนิคที่ 6: เสริมจุดอ่อนด้วยการดูคลิปและฟังเสียง
ปัญหาของผู้สอบหลายคนคือ…
- อ่านกฎหมายแล้วงง เข้าไม่ถึงภาษา
- อ่านเนื้อหาหนัก ๆ แล้วสมองเบลอ
- อยากอ่านทุกวันแต่ตารางแน่น เดินทางเยอะ
นี่แหละ คือจุดที่ “คลิปวิดีโอ” และ “เสียงบรรยาย” เข้ามาช่วยเสริมได้อย่างมหาศาล
ทำไม “ดู” และ “ฟัง” ถึงจำได้ดี?
เพราะคนเราไม่ได้เรียนรู้ด้วยการอ่านอย่างเดียว
แต่มี “สไตล์การเรียนรู้” ต่างกัน เช่น:
- Visual Learner → เห็นแล้วเข้าใจ
- Auditory Learner → ฟังแล้วเข้าใจ
- Active Learner → ชอบจำจากการพูดหรือทำเอง
ถ้าคุณอ่านแล้วไม่เข้าใจ แปลว่าอาจยัง “ไม่เจอรูปแบบการเรียนรู้ที่เข้ากับสมองตัวเอง”
กลยุทธ์: ใช้วิดีโอ + เสียงให้เป็นเครื่องมือเรียนรู้หลัก
✅ 1. ดูคลิปสรุปเนื้อหาแบบสั้น ๆ ก่อนอ่าน
เริ่มจากดูคลิปติวฟรี เช่น:
- “สรุป พ.ร.บ.อบต. 10 นาทีเข้าใจ”
- “แนวข้อสอบวิเคราะห์ภาค ก. พร้อมเฉลย”
- “ภาษาอังกฤษสอบท้องถิ่น ศัพท์ออกบ่อย 50 คำ”
ข้อดี:
- เข้าใจภาพรวมก่อน
- ทำให้การอ่านรอบถัดไปง่ายขึ้น
- ฟังขณะเดินทาง/ทำงานบ้านได้
แหล่งดูคลิปแนะนำ:
- YouTube: ช่อง “ครูดิว”, “ติวสอบราชการ”, “ครูพี่โอ”
- TikTok: มีติวเตอร์หลายคนลงคลิป 1–3 นาทีสรุปเร็ว
✅ 2. ฟังเสียงสรุป/Podcast ขณะทำกิจกรรมอื่น
คุณสามารถ “ฝึกสอบ” ได้แม้ไม่อยู่หน้าหนังสือ
แค่เปิด Podcast หรือเสียงบรรยายไว้ระหว่าง:
- ขับรถ / เดินทาง / ทำกับข้าว
- ออกกำลังกายเบา ๆ
- ก่อนนอน (เป็นการซึมซับแบบไม่กดดัน)
เคล็ดลับ:
ช่วงเวลาที่สมอง “เปิดรับ” ดีที่สุดคือ ช่วงเช้า กับ ก่อนนอน
แนว Podcast ที่ใช้ได้:
- “ติวสอบท้องถิ่นภาค ก.” (ค้นใน Spotify/YouTube)
- สรุปกฎหมายด้วยภาษาง่าย ๆ
- Podcast ทวนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
✅ 3. พูด/สอนเนื้อหาให้ตัวเองฟัง
วิธีนี้คือระดับแอดวานซ์ ที่นักสอบหลายคนใช้ได้ผลจริง:
“พูดสิ่งที่อ่านออกมา” ให้ตัวเองฟัง
เช่น:
- อัดเสียงตัวเองสรุป พ.ร.บ. สั้น ๆ วันละฉบับ
- ทวนบทวิเคราะห์เหตุผลแบบเล่าเรื่อง
ผลลัพธ์: สมองจะเข้าใจเร็วขึ้น เพราะคุณ “สังเคราะห์เนื้อหา” ไม่ใช่แค่อ่านผ่านตา
✅ 4. ดูคลิปเฉลยข้อสอบ แล้ว pause คิดก่อนตอบ
การดูคลิปเฉลยจะช่วยฝึก “แนวคิดในการวิเคราะห์โจทย์”
โดยให้ทำแบบนี้:
- ดูโจทย์ ➝ Pause ก่อนที่คนเฉลยจะตอบ
- คิดคำตอบด้วยตัวเอง
- กดดูเฉลย ➝ เปรียบเทียบกับสิ่งที่คุณตอบ
ประโยชน์:
- เห็นกระบวนการคิดของคนที่สอบผ่านจริง
- ฝึกความเร็วในการคิด
Checklist: เสริมคลิป & เสียงแบบมีเป้าหมาย
วัน | ช่วงเวลา | เนื้อหาที่ดู/ฟัง | ความเข้าใจ (1–5) |
จันทร์ | เดินทาง | สรุป พ.ร.บ.อบจ. | 4 |
พุธ | ทำงานบ้าน | ศัพท์อังกฤษออกสอบ | 3 |
ศุกร์ | ก่อนนอน | Podcast จับใจความภาษาไทย | 5 |
📌 ใช้ Google Sheets หรือ Note ในมือถือ ทำตารางง่าย ๆ แบบนี้เพื่อวางแผนฟัง + ติดตามความเข้าใจ
สรุปเทคนิคนี้:
“เรียนแบบใช้ทุกประสาทสัมผัส = จำได้นาน เข้าใจลึก”
อย่าฝืนอ่านถ้าเหนื่อย — ลองเปลี่ยนเป็นดูหรือฟัง แล้วกลับมาอ่านอีกครั้งเมื่อสมองพร้อม
เทคนิคนี้เหมาะมากสำหรับคนที่มีเวลาน้อย หรืออยากกระตุ้นความเข้าใจในช่วงที่ “ไม่อยากนั่งหน้าหนังสือ”

เทคนิคที่ 7: ฝึกใจให้พร้อมสอบ ด้วยการ “จำลองวันสอบจริง” (Simulate Exam Day)
ทำไม “ความรู้” อย่างเดียวไม่พอ?
เพราะในห้องสอบจริง ไม่ใช่แค่คุณกับข้อสอบ
แต่มีสิ่งที่มองไม่เห็นอีก 3 อย่างที่พร้อมทำให้คุณพลาด:
- แรงกดดันจากเวลา
- ความตื่นสนาม
- ความเครียดสะสมจากการเตรียมตัว
หลายคนเตรียมตัวดีมาก แต่สอบพลาดเพราะ “ไม่เคยซ้อมสนามสอบแบบจริงจังมาก่อน”
และนั่นคือที่มาของเทคนิคนี้ครับ…
การ “จำลองวันสอบจริง” คืออะไร?
คือการฝึกสอบแบบจริงจังทุกอย่างให้ใกล้เคียงกับวันสอบจริงที่สุด เพื่อให้สมองและร่างกายชินกับบรรยากาศของการสอบ ไม่ว่าจะเป็น:
- ความเงียบ
- ความตึงเครียด
- การจับเวลาจริง
- การทำข้อสอบต่อเนื่องโดยไม่มีการพัก
วิธีจำลองวันสอบให้ได้ผลจริง
✅ 1. เตรียมข้อสอบ 100 ข้อให้ครบทุกวิชาที่ต้องสอบ
- ใช้ข้อสอบย้อนหลัง หรือรวมชุดจากหลายวิชาให้ครบ
- จัดเรียงหมวดให้เหมือนข้อสอบจริง เช่น วิเคราะห์ – ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ – กฎหมาย
✅ 2. จับเวลาสอบจริง 120 นาที
- ตั้งเวลาตรงเป๊ะ: เช่น เริ่ม 9.00–11.00
- ห้ามเปิดหนังสือ ห้ามลุก ห้ามใช้มือถือ
- ใช้อุปกรณ์เหมือนวันสอบจริง: ดินสอ 2B, ยางลบ, โต๊ะว่าง ๆ
✅ 3. ตรวจคะแนนทันทีหลังสอบเสร็จ
- เช็กคะแนนในแต่ละหมวด
- วงข้อผิด แล้วจดสาเหตุ เช่น:
หมวด | ข้อผิด | สาเหตุที่ผิด |
กฎหมาย | 34, 41 | เข้าใจผิดเรื่องอำนาจอบจ. |
วิเคราะห์ | 12 | อ่านโจทย์ไม่ทัน |
✅ 4. ฝึกแบบนี้อย่างน้อย 2–3 รอบก่อนสอบจริง
- รอบแรก ➝ เพื่อวัดจุดอ่อน
- รอบที่สอง ➝ เพื่อแก้จุดอ่อน
- รอบสุดท้าย ➝ เพื่อสร้างความมั่นใจ
เสริมเทคนิค: “จำลองวันสอบจริงล่วงหน้า” 7 วัน
ก่อนวันสอบจริงประมาณ 1 สัปดาห์
ให้คุณลอง “ซ้อมใหญ่” ดังนี้:
- ตื่นเช้าแบบวันสอบจริง
- ทำข้อสอบช่วงเวลาเดียวกันกับที่กำหนดสอบ
- กินอาหารเช้าที่จะกินในวันสอบ
- นั่งโต๊ะที่เงียบ ไม่มีสิ่งรบกวน
ผล: สมองจะรู้สึกว่า “นี่คือเหตุการณ์ที่เคยทำมาแล้ว” ➝ ลดความตื่นสนามทันที
เสริมพลังใจ: ฝึกพูดกับตัวเองเชิงบวก
“ฉันเคยทำแบบนี้มาแล้ว ฉันพร้อม”
“ข้อสอบนี้แค่เหมือนที่เคยฝึก ไม่ใช่สิ่งใหม่”
“ฉันไม่กลัวข้อสอบ เพราะฉันซ้อมมาพร้อมแล้ว”
การสร้างกรอบความคิดเชิงบวก (Positive Mindset) จะช่วยให้คุณสงบ และมั่นใจมากขึ้นในวันสอบ
สรุปเทคนิคนี้:
✅ จำลองสอบจริงช่วยลดความกังวล
✅ ฝึกแบบนี้ 2–3 ครั้ง จะสร้างความคุ้นเคยกับสถานการณ์
✅ โอกาสสอบผ่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ประโยคสรุปจำง่าย:
“ใครที่ฝึกสอบเสมือนจริงก่อนวันจริง จะนิ่งกว่าและมั่นใจกว่าคนที่แค่อ่านหนังสืออย่างเดียว”
เตรียมตัวดี มีชัยเกินครึ่ง
การสอบท้องถิ่น ภาค ก. (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) อาจดูท้าทาย เพราะมีหลายวิชา หลายกฎหมาย หลายแนวข้อสอบ
แต่ถ้าคุณมีแผนที่ดี — อ่านอย่างเข้าใจ ฝึกทำข้อสอบบ่อย ๆ จัดระบบทบทวน และฝึกสอบแบบจำลอง
โอกาสผ่านในครั้งเดียวอยู่ไม่ไกลเลยครับ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การสอบนี้ไม่ใช่เรื่องของความจำ
แต่คือเรื่องของ “วินัย + ระบบการเตรียมตัว”
ถ้าคุณมีสองอย่างนี้ คุณก็มีสิทธิ์สอบผ่านไม่ต่างจากใคร
อ่าน โครงสร้างข้อสอบท้องถิ่น หรือ กฎหมายข้อสอบท้องถิ่นที่ต้องอ่าน