7 เทคนิคเตรียมตัวสอบท้องถิ่น ภาค ก. ให้ผ่านในครั้งเดียว

สำหรับใครที่ตั้งเป้าจะสอบติดข้าราชการท้องถิ่น การสอบภาค ก. คือด่านแรกที่ต้องผ่านให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลว่า “ข้อสอบเยอะ เนื้อหากว้าง ต้องจำกฎหมาย ภาษาไทย อังกฤษ วิเคราะห์กราฟ จะรอดไหม?” ความจริงคือ — สอบท้องถิ่นไม่ใช่ข้อสอบที่ยากเกินไป แต่จะผ่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า "คุณเตรียมตัวอย่างมีกลยุทธ์แค่ไหน" บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 7 เทคนิคการเตรียมตัวสอบท้องถิ่น ภาค ก. ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณ ผ่านได้ในครั้งเดียว ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มอ่าน หรือสอบรอบที่แล้วไม่ผ่าน บทนี้จะเป็นคู่มือที่คุณพกติดตัวได้ตลอดเส้นทางเตรียมสอบ

สอบท้องถิ่นไม่ยากเกินไป ถ้าเตรียมตัวให้ถูกจุด

สำหรับใครที่ตั้งเป้าจะสอบติดข้าราชการท้องถิ่น การสอบภาค ก. คือด่านแรกที่ต้องผ่านให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลว่า “ข้อสอบเยอะ เนื้อหากว้าง ต้องจำกฎหมาย ภาษาไทย อังกฤษ วิเคราะห์กราฟ จะรอดไหม?”

ความจริงคือ — สอบท้องถิ่นไม่ใช่ข้อสอบที่ยากเกินไป แต่จะผ่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า “คุณเตรียมตัวอย่างมีกลยุทธ์แค่ไหน”

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 7 เทคนิคการเตรียมตัวสอบท้องถิ่น ภาค ก. ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณ ผ่านได้ในครั้งเดียว
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มอ่าน หรือสอบรอบที่แล้วไม่ผ่าน บทนี้จะเป็นคู่มือที่คุณพกติดตัวได้ตลอดเส้นทางเตรียมสอบ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 7 เทคนิคการเตรียมตัวสอบท้องถิ่น ภาค ก. ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณ ผ่านได้ในครั้งเดียว
 ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มอ่าน หรือสอบรอบที่แล้วไม่ผ่าน บทนี้จะเป็นคู่มือที่คุณพกติดตัวได้ตลอดเส้นทางเตรียมสอบ

เทคนิคที่ 1: อ่านแบบ “เข้าใจภาพรวม” ก่อนลงลึก

ทำไมต้องเริ่มจากภาพรวมก่อน?

หนึ่งในความผิดพลาดที่ผู้สมัครสอบท้องถิ่นหลายคนทำ คือกระโดดลงไปอ่านหนังสือทันทีโดยไม่รู้ว่า:

  • ต้องสอบกี่หมวด?
  • แต่ละหมวดออกกี่ข้อ?
  • วิชาไหนยาก/ง่ายสำหรับตัวเอง?
  • ข้อสอบมีจุดเน้นอะไร?

ผลลัพธ์คืออ่านกระจาย ไม่เป็นระบบ เก็บคะแนนไม่ได้เต็มที่ในหมวดที่ควรเน้น ➔ พลาดคะแนนรวมในที่สุด

วิธี “เข้าใจภาพรวม” ให้แม่นก่อนเริ่มอ่าน

1. ศึกษาโครงสร้างข้อสอบอย่างละเอียด

สอบท้องถิ่น ภาค ก. โดยทั่วไป แบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่:

  1. ความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์ และสรุปเหตุผล
  2. ความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ (เน้นกฎหมาย)
  3. ภาษาไทย
  4. ภาษาอังกฤษ

บางปีอาจมีเปลี่ยนแปลง หรือรวมหมวด แต่โครงสร้างโดยรวมไม่ต่างจากนี้มาก

2. รู้ “น้ำหนักคะแนน” และจัดลำดับความสำคัญ

ตัวอย่างน้ำหนักคะแนนโดยประมาณ (แตกต่างกันได้เล็กน้อยตามหน่วยสอบ):

หมวดน้ำหนักโดยประมาณเป้าหมายสำหรับมือใหม่
วิเคราะห์เหตุผล25–30%เก็บคะแนนให้ได้มากสุด
กฎหมาย/ราชการ30–40%ต้องอ่านลึกที่สุด
ภาษาไทย15–20%ทำคะแนนให้แน่นพอควร
ภาษาอังกฤษ10–15%ขอแค่ไม่ตกก็เพียงพอ

สังเกต: หมวดกฎหมายและวิเคราะห์เหตุผลมักเป็นหมวดที่ “ชี้ชะตา” การสอบผ่าน


3. ประเมินตัวเองก่อนวางแผน

ลองตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเอง:

  • เราเก่งภาษาไทยไหม? ถ้าไม่ ➔ ฝึกจับใจความยังไงดี?
  • เราอ่านกฎหมายรู้เรื่องไหม? ถ้าไม่ ➔ ต้องเริ่มจากสรุปภาพใหญ่
  • เราเคยฝึกทำข้อสอบวิเคราะห์มาก่อนหรือยัง?

ถ้าคุณตอบได้อย่างตรงไปตรงมา จะรู้ทันทีว่าแต่ละหมวดต้อง “เสริมแรง” แค่ไหน


สรุปแผนการเข้าใจภาพรวมแบบ 3 ขั้นตอน

  1. วางแผนเป้าหมายในแต่ละหมวด
    • หมวดไหน “หวังคะแนนเต็ม”
    • หมวดไหน “รอดแบบไม่พลาด”
  2. อ่านโครงสร้างข้อสอบย้อนหลัง 3–5 ปี
    • จะรู้แนวโน้มว่าข้อสอบเน้นอะไร
    • เจอคำถามคล้าย ๆ กันซ้ำ ๆ
  3. สร้าง “แผนภาพรวม” บนกระดาษ 1 แผ่น
    • วาดเป็นตาราง: หมวดวิชา | เป้าหมาย | สถานะตอนนี้ | แผนอ่าน
    • แปะไว้ที่โต๊ะหรือหน้าสมุดจดเป้าหมาย

ข้อดีของการเข้าใจภาพรวมก่อน

  • คุณจะไม่สับสนระหว่างเนื้อหา
  • ไม่หลงทางตอนอ่าน
  • ประหยัดเวลา เพราะรู้ว่าอะไรสำคัญกว่า
  • และที่สำคัญที่สุด…มีแผนการสอบที่ควบคุมได้จริง

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 7 เทคนิคการเตรียมตัวสอบท้องถิ่น ภาค ก. ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณ ผ่านได้ในครั้งเดียว
 ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มอ่าน หรือสอบรอบที่แล้วไม่ผ่าน บทนี้จะเป็นคู่มือที่คุณพกติดตัวได้ตลอดเส้นทางเตรียมสอบ

เทคนิคที่ 2: วางแผนการอ่านแบบรายสัปดาห์ (อย่างไรให้ไม่ล้มกลางทาง)

Shark โอเคไหมครับกับความลึกระดับนี้?
หรืออยากให้เพิ่มภาพประกอบ/ตัวอย่างตารางวางแผนรายสัปดาห์ด้วยในการเขียนข้อถัดไปครับ?

ทำไมการ “วางแผน” ถึงสำคัญกว่า “ตั้งใจ”?

หลายคนสอบไม่ผ่าน ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ…
แต่เพราะไม่มีแผน → อ่านกระจัดกระจาย → ขาดความต่อเนื่อง → ท้อกลางทาง → สอบไม่ผ่านทั้งที่ตั้งใจ

การวางแผนแบบรายสัปดาห์จะช่วยให้คุณ:

  • รู้ว่าต้องอ่านอะไรในแต่ละวัน
  • ประเมินความคืบหน้าได้จริง
  • มีความรู้สึกว่า “ใกล้เป้าหมายขึ้นทุกวัน”

และที่สำคัญคือ…คุณจะเลิกรู้สึกว่า “ต้องอ่านเยอะมากจนไม่รู้จะเริ่มยังไง”

โครงสร้างแผนรายสัปดาห์ (เหมาะกับคนทำงานประจำ/เรียนไปด้วย)

1. สัปดาห์ที่ 1–2: ปูพื้นฐานกฎหมาย

  • อ่านภาพรวม พ.ร.บ. ทั้งชุด (อบจ., เทศบาล, อบต., กระจายอำนาจ)
  • อ่านสรุปรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน
  • ดูคลิปสรุปกฎหมายวันละ 20–30 นาที
  • ทบทวนด้วย flashcard หรือ post-it สั้น ๆ

2. สัปดาห์ที่ 3: วิเคราะห์เหตุผล – คณิตศาสตร์ – กราฟ

  • ฝึกอ่านตาราง กราฟ และตีโจทย์
  • วันเว้นวันให้ทำข้อสอบเฉพาะวิเคราะห์อย่างน้อยวันละ 15 ข้อ
  • จับเวลา 1 ชุด = 25 นาที เพื่อฝึกความเร็ว

3. สัปดาห์ที่ 4: ภาษาไทย

  • วันจันทร์/พฤหัส: ฝึกจับใจความ (อ่านย่อหน้า → ตอบคำถาม)
  • วันอังคาร/ศุกร์: ฝึกเรียงประโยค และสรุปความ
  • เสาร์/อาทิตย์: ทำชุดข้อสอบเก่าแบบจับเวลา

4. สัปดาห์ที่ 5: ภาษาอังกฤษ

  • แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก:
    • Vocabulary (ศัพท์ออกบ่อย เช่น advise, policy, issue)
    • Reading Comprehension (ฝึกวันเว้นวัน)
    • Grammar เบื้องต้น (subject–verb, tense, คำเชื่อม)
  • ใช้แอปศัพท์ (เช่น Anki, Quizlet) ฝึกทุกวัน

5. สัปดาห์ที่ 6: ฝึกสอบจำลอง

  • ทำข้อสอบรวม 100 ข้อแบบจับเวลา
  • ตรวจทันที → วงข้อผิด → จดสาเหตุที่พลาด
  • ทบทวนเฉพาะ “จุดอ่อน” ในวันถัดไป

6. สัปดาห์ที่ 7: สรุปเนื้อหาทั้งหมด + ทบทวน

  • ย้ำ keyword สำคัญจากกฎหมาย
  • ทำข้อสอบแบบสุ่มจากทุกวิชา
  • ปิดท้ายด้วย Simulation Day อีก 1 วัน

เคล็ดลับสำคัญ: วางแผนแบบ “ยืดหยุ่น แต่ไม่เลื่อน”

  • กำหนดว่าแต่ละวัน “ต้องทำให้เสร็จอะไร”
  • ถ้าพลาด 1 วัน → ให้เรียนชดเชยในวันเสาร์
  • แต่อย่าเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ จนแผนพัง

ตัวอย่างตารางสั้น ๆ (ของมือใหม่ที่มีเวลาแค่วันละ 1 ชม.)

วันวิชากิจกรรม
จันทร์กฎหมายอ่าน พ.ร.บ.อบจ. + ทำสรุป
อังคารวิเคราะห์ทำข้อสอบ 10 ข้อ
พุธภาษาไทยฝึกจับใจความ
พฤหัสกฎหมายอ่าน พ.ร.บ.กระจายอำนาจ
ศุกร์ภาษาอังกฤษท่องศัพท์ + grammar 15 นาที
เสาร์ทบทวนอ่านสรุปย้อนหลัง
อาทิตย์ฝึกสอบทำข้อสอบจับเวลา 50 ข้อ

ถ้าไม่มีแผน = ไม่มีทิศทาง

“การไม่มีแผนในการสอบ ก็เหมือนการไปสนามสอบโดยไม่มีเข็มทิศ”
อย่าให้ความตั้งใจสูญเปล่าเพราะอ่านผิดจุด!


Business Reportวิธีสมัครสอบ ก.พ. ขั้นตอนการลงทะเบียนและสมัครสอบ 16

เทคนิคที่ 3: อ่านกฎหมายแบบ “ไม่ท่องจำ” แต่เข้าใจ

ทำไม “การท่องจำ” ถึงเป็นกับดัก?

หนึ่งในความเข้าใจผิดของผู้สอบท้องถิ่นคือ

“กฎหมายต้องจำทุกมาตรา ถึงจะสอบผ่าน”

ความจริงคือ:
ข้อสอบภาค ก. ไม่ได้ถามให้คุณจำมาตราเลขที่ เช่น “มาตรา 28 ว่าอะไร”
แต่ถามให้คุณเข้าใจ หลักการ โครงสร้าง และการประยุกต์ใช้กับสถานการณ์

และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้คนที่อ่าน “แบบเข้าใจ” ได้เปรียบมหาศาล


เป้าหมายของการอ่านกฎหมายเพื่อสอบ

ไม่ใช่แค่จำว่า “อบจ. มีสภา อบจ. กับนายก อบจ.”
แต่ต้องรู้ว่า:

  • ใครมีอำนาจอะไร?
  • หน้าที่หลักขององค์กรนั้นคืออะไร?
  • องค์กรนั้นแตกต่างจากองค์กรท้องถิ่นอื่นอย่างไร?
  • ถ้ามีสถานการณ์เกิดขึ้น ใครต้องตัดสินใจ?

4 ขั้นตอน “อ่านกฎหมายให้เข้าใจ ไม่ใช่ท่อง”


✅ ขั้นตอนที่ 1: เริ่มจาก “สรุปภาพรวม” ก่อน

ก่อนจะลงลึกในมาตราใด ๆ
ควรเข้าใจก่อนว่า:

  • กฎหมายฉบับนี้กำกับอะไร?
  • เกี่ยวกับหน่วยงานไหน?
  • โครงสร้างอำนาจคืออะไร?

ตัวอย่างเช่น:
พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด
– เป็นกฎหมายว่าด้วย “การบริหารท้องถิ่นระดับจังหวัด”
– โครงสร้างประกอบด้วย นายก อบจ. และ สภา อบจ.
– อำนาจเน้นเรื่องสาธารณูปโภคระดับจังหวัด การวางผังเมือง ฯลฯ


✅ ขั้นตอนที่ 2: ทำ Mind Map หรือผังอำนาจ

ให้วาดโครงสร้างแบบนี้ (ไม่ต้องสวยก็ได้):

อบจ.  

├── นายก อบจ. (ฝ่ายบริหาร)  

├── สภา อบจ. (ฝ่ายนิติบัญญัติ)  

└── ข้าราชการส่วนท้องถิ่น  

แล้วจดข้าง ๆ ว่าใครทำหน้าที่อะไร ใครเลือกตั้ง ใครแต่งตั้ง ใครเสนอ/อนุมัติงบประมาณ ฯลฯ
ผังเดียว จำได้ทั้งโครงสร้างกฎหมาย


✅ ขั้นตอนที่ 3: อ่านแบบ “ตั้งคำถาม”

แทนที่จะอ่านเฉย ๆ ลองตั้งคำถามกับตัวเองแบบนี้:

  • ถ้านายก อบจ. ลาออก ใครรักษาการ?
  • ถ้าสภาไม่อนุมัติงบประมาณ จะเกิดอะไรขึ้น?
  • หน่วยงานนี้เกี่ยวอะไรกับประชาชน?

การถามแบบนี้จะ “บังคับให้คุณเข้าใจ” โดยอัตโนมัติ
นี่คือเทคนิคที่นักสอบสายลึกใช้กันจริง


✅ ขั้นตอนที่ 4: อ่านข้อสอบเก่าเพื่อ “เช็กความเข้าใจ”

อย่าอ่านกฎหมายโดยไม่มีบริบท
พออ่านจบหัวข้อ เช่น พ.ร.บ.อบต. ➔ ให้ลองทำข้อสอบทันที 5–10 ข้อ
จะรู้เลยว่า:

  • เราเข้าใจแค่ไหน?
  • ยังสับสนจุดไหน?
  • คำถามที่ออกจริงถามยังไง?

เมื่อข้อสอบยืนยันว่า “เรารู้จริง” — สมองจะจำแบบฝังลึกทันที


เทคนิคพิเศษ: วิธีจำแบบ “Keyword Mapping”

บางครั้งคุณไม่ต้องจำทั้งประโยค แค่จับ “คำเชื่อม” สำคัญพอ เช่น

  • “อบต.” = ตำบล, ใกล้ชุมชน, งานบริการพื้นฐาน
  • “อบจ.” = จังหวัด, ผังเมือง, ถนนสายรอง
  • “เทศบาล” = เมือง, เขตเมือง, การศึกษา/สุขาภิบาล
  • “เมืองพัทยา” = มีโครงสร้างเฉพาะ, นายกพัทยา, คณะกรรมการพัทยา

แบบนี้จะช่วยให้คุณ เชื่อมคำถามกับคำตอบได้ไว เวลาสอบจริง


ตัวอย่างโจทย์ที่ “ไม่ท่องก็ทำได้”

ข้อใดกล่าวถึงหน้าที่ของนายก อบจ. ได้ถูกต้อง?

ก. แต่งตั้งรองนายก อบจ. โดยความเห็นชอบของสภา อบจ.
ข. อนุมัติงบประมาณประจำปีโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของสภา
ค. แต่งตั้งปลัด อบจ. ได้โดยตรง
ง. เสนอร่างข้อบัญญัติ อบจ. ให้สภา อบจ. พิจารณา

เฉลย: ง.
(ใครเข้าใจบทบาทของฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติจะตอบได้โดยไม่ต้องจำมาตราใดเลย)


สรุปเทคนิคนี้สั้น ๆ:

📌 อ่าน = เข้าใจ “โครงสร้าง” และ “บริบท”
📌 สรุป = ด้วยแผนภาพ หรือ Bullet Note
📌 จำ = ด้วยคำเชื่อมและตัวอย่างสถานการณ์
📌 เช็ก = ด้วยข้อสอบจริงทันทีหลังอ่าน


🎯 เทคนิคนี้จะทำให้คุณ “กลายเป็นคนอ่านกฎหมายได้ไวขึ้นเรื่อย ๆ” และเข้าใจมากกว่าท่องจำ
ซึ่งสำคัญมากในการพิชิตข้อสอบท้องถิ่นภาค ก.

22 1

เทคนิคที่ 4: ฝึกทำข้อสอบ “จับเวลา” เสมือนจริง


ทำไมการจับเวลาคือหัวใจของการ “สอบผ่านจริง”?

หลายคนอ่านหนังสือเก่ง ทำข้อสอบแยกเป็นข้อ ๆ ได้
แต่พอวันสอบจริง — กลับลน ไม่ทันเวลา ทำผิดพลาดง่าย ๆ เพราะ “ไม่เคยซ้อมสนามจริง”

การสอบท้องถิ่น ภาค ก. ไม่ได้วัดแค่ความรู้
แต่วัด “ความพร้อม ความแม่น และความเร็ว” ในสถานการณ์กดดัน
และวิธีฝึกที่ดีที่สุดคือ: ฝึกทำข้อสอบแบบเสมือนจริง


เป้าหมายของเทคนิคนี้:

  • สร้างความเคยชินกับข้อสอบเต็มชุด
  • ฝึกสมาธิให้อยู่กับข้อสอบต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง
  • ประเมินจุดแข็ง–จุดอ่อนของตัวเองอย่างแม่นยำ
  • ลดความตื่นสนามในวันสอบจริง

วิธีฝึกทำข้อสอบเสมือนจริงให้ได้ผลจริง


✅ 1. เลือกข้อสอบที่ “ใกล้เคียงสนามจริงที่สุด”

  • ใช้ข้อสอบเก่าย้อนหลังของการสอบท้องถิ่น (หาง่ายตามกลุ่ม Facebook, เว็บไซต์ติวสอบ, หนังสือสอบ)
  • ถ้าไม่มีชุดเต็ม ให้รวมข้อสอบแยกวิชาให้ครบ 100 ข้อ

ข้อแนะนำ:
ใช้ข้อสอบที่แบ่งหมวดชัดเจน เช่น วิเคราะห์ | ภาษาไทย | กฎหมาย | อังกฤษ
เพื่อประเมินแต่ละวิชาได้


✅ 2. จับเวลาให้เป๊ะ (เช่น 100 ข้อ = 120 นาที)

  • ตั้งนาฬิกาหรือจับเวลาในมือถือ
  • ใช้ดินสอ-กระดาษเหมือนวันสอบจริง
  • ไม่ลุก ไม่เปิดหนังสือ ไม่ดูคำตอบ
  • นั่งในโต๊ะเงียบ ๆ ไม่มีสิ่งรบกวน

เหมือนซ้อมสอบจริงทุกอย่าง เพราะเป้าหมายคือ “ฝึกสมองและสมาธิ” ไม่ใช่แค่หาคำตอบ


✅ 3. ตรวจคำตอบทันทีหลังสอบเสร็จ

  • วงข้อผิดและจดว่า “ผิดเพราะอะไร” เช่น:
    • อ่านโจทย์ไม่ละเอียด
    • คิดเลขพลาด
    • ไม่เข้าใจศัพท์
    • จำบทบาทองค์กรผิด

Tip: ทำตารางบันทึกแบบนี้:

หมวดข้อที่ผิดสาเหตุ
กฎหมาย12, 27, 41จำโครงสร้างอบจ. สลับกับอบต.
ภาษาไทย55, 57อ่านจับใจความพลาด
อังกฤษ91, 98ศัพท์ไม่รู้

จากนั้นนำไป “วางแผนแก้จุดอ่อน” ในสัปดาห์ต่อไป


✅ 4. ทบทวนเฉพาะ “ข้อที่ผิด” ภายใน 24 ชั่วโมง

สมองจะจำได้ดีที่สุดถ้าทบทวนทันทีหลังสอบ
ให้ใช้เวลาทบทวนแค่ 30 นาทีพอ ไม่ต้องอ่านใหม่หมด
แต่อ่านเฉพาะประเด็นที่ทำผิด เช่น:

  • ข้อ 41: เข้าใจผิดว่าสภาอบจ. แต่งตั้งนายก – ❌ (จริง ๆ คือประชาชนเลือกตั้ง)

แบบนี้จะช่วยให้ความเข้าใจ “แน่นขึ้นทีละชั้น”


✅ 5. ฝึกสอบจำลองแบบนี้ทุกสัปดาห์ (1–2 ครั้ง)

อย่ารอใกล้สอบถึงจะเริ่ม
เพราะ “การสอบซ้อมหลายรอบ = ความเคยชินที่ลบความกลัว” ได้จริง


เคล็ดลับเสริม: ทำ “Mini Test” ระหว่างสัปดาห์

ถ้าไม่มีเวลาเต็ม 2 ชั่วโมง ให้ทำ:

  • Mini Test วิชาวิเคราะห์ = 20 ข้อ 25 นาที
  • Mini Test ภาษาไทย = 15 ข้อ 20 นาที
  • Quiz กฎหมายแบบจับเวลา 10 ข้อทุกวัน

ข้อดี: ฝึกความแม่น + ฝึกสมองให้ตื่นตัวทุกวัน
ผล: วันสอบจริงจะรู้จังหวะของตัวเอง — ไม่ตื่นสนาม


ประโยชน์มหาศาลจากการฝึกสอบเสมือนจริง

✅ สมองชินกับการคิดต่อเนื่อง
✅ ฝึกอ่านโจทย์ไว ตีโจทย์แม่น
✅ คุมเวลาได้ดีกว่าคนที่ไม่ฝึก
✅ ลดความกังวลในวันสอบจริง
✅ รู้จุดอ่อนของตัวเองชัดเจนและแก้ได้ทัน


สรุปเทคนิคนี้:

“อย่าให้วันสอบจริง เป็นครั้งแรกที่คุณเจอข้อสอบเต็มชุด”

เพราะการสอบให้ผ่านในครั้งเดียว ไม่ได้วัดแค่ “ใครรู้มาก”
แต่วัดว่า “ใครพร้อมก่อน” ต่างหาก

23

เทคนิคที่ 5: ทบทวนด้วย Spaced Repetition (จำแม่นแบบไม่ต้องท่องซ้ำ)


ปัญหาของการอ่านแบบเดิม ๆ:

เคยไหม? อ่านหนังสือวันนี้… อีก 5 วันผ่านไปจำอะไรไม่ได้เลย
หรือจำได้ตอนอ่าน แต่พอเจอในข้อสอบ กลับตอบผิดเพราะหลงลืม
เพราะเราใช้วิธีท่องจำแบบ “ยัดเยียด” ซึ่งสมองลืมเร็วมาก


แล้ว Spaced Repetition คืออะไร?

Spaced Repetition = การทบทวนแบบเว้นระยะ
เป็นการทบทวนซ้ำเป็นรอบ ๆ ในช่วงเวลาที่ “สมองกำลังเริ่มลืม”
ซึ่งจะกระตุ้นให้สมอง “ดึงข้อมูลกลับมา” และจดจำได้แน่นขึ้นทุกครั้งที่ทบทวน

ยิ่งทบทวนในจังหวะที่เหมาะสม ความจำจะยิ่งถาวร
ไม่ต้องท่องซ้ำ 10 รอบในวันเดียว แต่ทบทวน 3 รอบให้ดี จะจำได้นานกว่า


ตารางทบทวนแบบ Spaced Repetition ที่ใช้ได้จริง:

หลังจากคุณเรียนหรืออ่านเนื้อหา 1 หัวข้อ ให้ทบทวนตามรอบนี้:

รอบเวลาทบทวนหลังจากเรียนวิธีทบทวน
รอบที่ 1ภายใน 24 ชั่วโมงทบทวนด้วย Note สั้น ๆ หรือ Flashcard
รอบที่ 2วันที่ 3–4ทำแบบฝึกหัดสั้น หรือ Mini Quiz
รอบที่ 3วันที่ 7–10ทบทวน Keyword + ทำข้อสอบจริง
รอบที่ 4สัปดาห์ที่ 3–4ทบทวนภาพรวมทั้งหมวดด้วย Mind Map
รอบสุดท้ายสัปดาห์ก่อนสอบทบทวนแบบจำลองข้อสอบเสมือนจริง

ตัวอย่างการใช้กับเนื้อหาสอบท้องถิ่น

เช่น หัวข้อ “พ.ร.บ.อบจ.”

  • วันแรก: อ่านสรุป+วาดผังโครงสร้าง
  • วันที่ 2: ทบทวน keyword เช่น “นายก อบจ. = บริหาร”, “สภา อบจ. = พิจารณางบ”
  • วันที่ 4: ทำข้อสอบ 10 ข้อเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นี้
  • วันที่ 8: ทบทวน Note สรุปในคำพูดตัวเอง
  • สัปดาห์ที่ 4: ทำข้อสอบรวมแบบจำลอง (ที่มี พ.ร.บ.นี้ปนอยู่)

เครื่องมือช่วยทบทวนแบบ Spaced Repetition

✅ 1. Flashcards (ทำมือ / ใช้แอปก็ได้)

  • เขียนคำถามหน้าแรก → คำตอบด้านหลัง
  • เช่น หน้า: “อบต. มีโครงสร้างอะไรบ้าง?”
    หลัง: “นายก อบต. / สภา อบต. / ปลัด อบต.”

แอปแนะนำ: Anki, Quizlet (ใช้ฟรี)


✅ 2. ใช้ Google Sheets ทำ “ตารางทบทวนเฉพาะตัว”

หัวข้อวันที่เริ่มอ่านรอบ 1รอบ 2รอบ 3ความมั่นใจ (1–5)
พ.ร.บ.อบจ.1 พ.ค.2 พ.ค.4 พ.ค.9 พ.ค.3

→ ช่อง “ความมั่นใจ” ให้คุณให้คะแนนตัวเองว่าจำได้แค่ไหน
ถ้าคะแนนต่ำ ให้เพิ่มรอบทบทวนในรอบถัดไป


✅ 3. ใช้เสียงตัวเองอัดอธิบาย แล้วฟังซ้ำ

เหมาะกับคนที่เรียนรู้ด้วยการฟัง (Auditory Learner)
แค่เปิดมือถือแล้วอัดเสียงตัวเองพูดสรุป เช่น:

“พ.ร.บ.อบจ. มีโครงสร้าง 2 ฝ่าย คือ นายก กับ สภา…”

ฟังตอนขับรถ เดินทาง หรือก่อนนอน — ได้ผลมาก!


สรุปเทคนิคนี้:

อ่านครั้งเดียว… สมองจำ 20%
อ่านครั้งที่สองในเวลาที่ถูกต้อง → สมองจำ 60–70%
ทบทวนรอบสุดท้ายก่อนสอบ → ความจำเข้าใกล้ 90–100%

📌 Spaced Repetition จึงไม่ใช่แค่วิธีจำ
แต่คือ กลยุทธ์การจดจำอย่างยั่งยืน ที่ใช้พลัง “สมอง vs เวลา” อย่างชาญฉลาด


ประโยคจำง่าย:

❌ “จำให้หมดก่อนสอบ”
✅ “จำให้นานตั้งแต่ต้น”

24

เทคนิคที่ 6: เสริมจุดอ่อนด้วยการดูคลิปและฟังเสียง


ปัญหาของผู้สอบหลายคนคือ…

  • อ่านกฎหมายแล้วงง เข้าไม่ถึงภาษา
  • อ่านเนื้อหาหนัก ๆ แล้วสมองเบลอ
  • อยากอ่านทุกวันแต่ตารางแน่น เดินทางเยอะ

นี่แหละ คือจุดที่ “คลิปวิดีโอ” และ “เสียงบรรยาย” เข้ามาช่วยเสริมได้อย่างมหาศาล


ทำไม “ดู” และ “ฟัง” ถึงจำได้ดี?

เพราะคนเราไม่ได้เรียนรู้ด้วยการอ่านอย่างเดียว

แต่มี “สไตล์การเรียนรู้” ต่างกัน เช่น:

  • Visual Learner → เห็นแล้วเข้าใจ
  • Auditory Learner → ฟังแล้วเข้าใจ
  • Active Learner → ชอบจำจากการพูดหรือทำเอง

ถ้าคุณอ่านแล้วไม่เข้าใจ แปลว่าอาจยัง “ไม่เจอรูปแบบการเรียนรู้ที่เข้ากับสมองตัวเอง”


กลยุทธ์: ใช้วิดีโอ + เสียงให้เป็นเครื่องมือเรียนรู้หลัก


✅ 1. ดูคลิปสรุปเนื้อหาแบบสั้น ๆ ก่อนอ่าน

เริ่มจากดูคลิปติวฟรี เช่น:

  • “สรุป พ.ร.บ.อบต. 10 นาทีเข้าใจ”
  • “แนวข้อสอบวิเคราะห์ภาค ก. พร้อมเฉลย”
  • “ภาษาอังกฤษสอบท้องถิ่น ศัพท์ออกบ่อย 50 คำ”

ข้อดี:

  • เข้าใจภาพรวมก่อน
  • ทำให้การอ่านรอบถัดไปง่ายขึ้น
  • ฟังขณะเดินทาง/ทำงานบ้านได้

แหล่งดูคลิปแนะนำ:

  • YouTube: ช่อง “ครูดิว”, “ติวสอบราชการ”, “ครูพี่โอ”
  • TikTok: มีติวเตอร์หลายคนลงคลิป 1–3 นาทีสรุปเร็ว

✅ 2. ฟังเสียงสรุป/Podcast ขณะทำกิจกรรมอื่น

คุณสามารถ “ฝึกสอบ” ได้แม้ไม่อยู่หน้าหนังสือ
แค่เปิด Podcast หรือเสียงบรรยายไว้ระหว่าง:

  • ขับรถ / เดินทาง / ทำกับข้าว
  • ออกกำลังกายเบา ๆ
  • ก่อนนอน (เป็นการซึมซับแบบไม่กดดัน)

เคล็ดลับ:
ช่วงเวลาที่สมอง “เปิดรับ” ดีที่สุดคือ ช่วงเช้า กับ ก่อนนอน

แนว Podcast ที่ใช้ได้:

  • “ติวสอบท้องถิ่นภาค ก.” (ค้นใน Spotify/YouTube)
  • สรุปกฎหมายด้วยภาษาง่าย ๆ
  • Podcast ทวนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

✅ 3. พูด/สอนเนื้อหาให้ตัวเองฟัง

วิธีนี้คือระดับแอดวานซ์ ที่นักสอบหลายคนใช้ได้ผลจริง:

“พูดสิ่งที่อ่านออกมา” ให้ตัวเองฟัง

เช่น:

  • อัดเสียงตัวเองสรุป พ.ร.บ. สั้น ๆ วันละฉบับ
  • ทวนบทวิเคราะห์เหตุผลแบบเล่าเรื่อง

ผลลัพธ์: สมองจะเข้าใจเร็วขึ้น เพราะคุณ “สังเคราะห์เนื้อหา” ไม่ใช่แค่อ่านผ่านตา


✅ 4. ดูคลิปเฉลยข้อสอบ แล้ว pause คิดก่อนตอบ

การดูคลิปเฉลยจะช่วยฝึก “แนวคิดในการวิเคราะห์โจทย์”
โดยให้ทำแบบนี้:

  1. ดูโจทย์ ➝ Pause ก่อนที่คนเฉลยจะตอบ
  2. คิดคำตอบด้วยตัวเอง
  3. กดดูเฉลย ➝ เปรียบเทียบกับสิ่งที่คุณตอบ

ประโยชน์:

  • เห็นกระบวนการคิดของคนที่สอบผ่านจริง
  • ฝึกความเร็วในการคิด

Checklist: เสริมคลิป & เสียงแบบมีเป้าหมาย

วันช่วงเวลาเนื้อหาที่ดู/ฟังความเข้าใจ (1–5)
จันทร์เดินทางสรุป พ.ร.บ.อบจ.4
พุธทำงานบ้านศัพท์อังกฤษออกสอบ3
ศุกร์ก่อนนอนPodcast จับใจความภาษาไทย5

📌 ใช้ Google Sheets หรือ Note ในมือถือ ทำตารางง่าย ๆ แบบนี้เพื่อวางแผนฟัง + ติดตามความเข้าใจ


สรุปเทคนิคนี้:

“เรียนแบบใช้ทุกประสาทสัมผัส = จำได้นาน เข้าใจลึก”

อย่าฝืนอ่านถ้าเหนื่อย — ลองเปลี่ยนเป็นดูหรือฟัง แล้วกลับมาอ่านอีกครั้งเมื่อสมองพร้อม

เทคนิคนี้เหมาะมากสำหรับคนที่มีเวลาน้อย หรืออยากกระตุ้นความเข้าใจในช่วงที่ “ไม่อยากนั่งหน้าหนังสือ”

25

เทคนิคที่ 7: ฝึกใจให้พร้อมสอบ ด้วยการ “จำลองวันสอบจริง” (Simulate Exam Day)


ทำไม “ความรู้” อย่างเดียวไม่พอ?

เพราะในห้องสอบจริง ไม่ใช่แค่คุณกับข้อสอบ
แต่มีสิ่งที่มองไม่เห็นอีก 3 อย่างที่พร้อมทำให้คุณพลาด:

  • แรงกดดันจากเวลา
  • ความตื่นสนาม
  • ความเครียดสะสมจากการเตรียมตัว

หลายคนเตรียมตัวดีมาก แต่สอบพลาดเพราะ “ไม่เคยซ้อมสนามสอบแบบจริงจังมาก่อน”

และนั่นคือที่มาของเทคนิคนี้ครับ…


การ “จำลองวันสอบจริง” คืออะไร?

คือการฝึกสอบแบบจริงจังทุกอย่างให้ใกล้เคียงกับวันสอบจริงที่สุด เพื่อให้สมองและร่างกายชินกับบรรยากาศของการสอบ ไม่ว่าจะเป็น:

  • ความเงียบ
  • ความตึงเครียด
  • การจับเวลาจริง
  • การทำข้อสอบต่อเนื่องโดยไม่มีการพัก

วิธีจำลองวันสอบให้ได้ผลจริง


✅ 1. เตรียมข้อสอบ 100 ข้อให้ครบทุกวิชาที่ต้องสอบ

  • ใช้ข้อสอบย้อนหลัง หรือรวมชุดจากหลายวิชาให้ครบ
  • จัดเรียงหมวดให้เหมือนข้อสอบจริง เช่น วิเคราะห์ – ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ – กฎหมาย

✅ 2. จับเวลาสอบจริง 120 นาที

  • ตั้งเวลาตรงเป๊ะ: เช่น เริ่ม 9.00–11.00
  • ห้ามเปิดหนังสือ ห้ามลุก ห้ามใช้มือถือ
  • ใช้อุปกรณ์เหมือนวันสอบจริง: ดินสอ 2B, ยางลบ, โต๊ะว่าง ๆ

✅ 3. ตรวจคะแนนทันทีหลังสอบเสร็จ

  • เช็กคะแนนในแต่ละหมวด
  • วงข้อผิด แล้วจดสาเหตุ เช่น:
หมวดข้อผิดสาเหตุที่ผิด
กฎหมาย34, 41เข้าใจผิดเรื่องอำนาจอบจ.
วิเคราะห์12อ่านโจทย์ไม่ทัน

✅ 4. ฝึกแบบนี้อย่างน้อย 2–3 รอบก่อนสอบจริง

  • รอบแรก ➝ เพื่อวัดจุดอ่อน
  • รอบที่สอง ➝ เพื่อแก้จุดอ่อน
  • รอบสุดท้าย ➝ เพื่อสร้างความมั่นใจ

เสริมเทคนิค: “จำลองวันสอบจริงล่วงหน้า” 7 วัน

ก่อนวันสอบจริงประมาณ 1 สัปดาห์
ให้คุณลอง “ซ้อมใหญ่” ดังนี้:

  • ตื่นเช้าแบบวันสอบจริง
  • ทำข้อสอบช่วงเวลาเดียวกันกับที่กำหนดสอบ
  • กินอาหารเช้าที่จะกินในวันสอบ
  • นั่งโต๊ะที่เงียบ ไม่มีสิ่งรบกวน

ผล: สมองจะรู้สึกว่า “นี่คือเหตุการณ์ที่เคยทำมาแล้ว” ➝ ลดความตื่นสนามทันที


เสริมพลังใจ: ฝึกพูดกับตัวเองเชิงบวก

“ฉันเคยทำแบบนี้มาแล้ว ฉันพร้อม”
“ข้อสอบนี้แค่เหมือนที่เคยฝึก ไม่ใช่สิ่งใหม่”
“ฉันไม่กลัวข้อสอบ เพราะฉันซ้อมมาพร้อมแล้ว”

การสร้างกรอบความคิดเชิงบวก (Positive Mindset) จะช่วยให้คุณสงบ และมั่นใจมากขึ้นในวันสอบ


สรุปเทคนิคนี้:

✅ จำลองสอบจริงช่วยลดความกังวล
✅ ฝึกแบบนี้ 2–3 ครั้ง จะสร้างความคุ้นเคยกับสถานการณ์
✅ โอกาสสอบผ่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


ประโยคสรุปจำง่าย:

“ใครที่ฝึกสอบเสมือนจริงก่อนวันจริง จะนิ่งกว่าและมั่นใจกว่าคนที่แค่อ่านหนังสืออย่างเดียว”

เตรียมตัวดี มีชัยเกินครึ่ง

การสอบท้องถิ่น ภาค ก. (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) อาจดูท้าทาย เพราะมีหลายวิชา หลายกฎหมาย หลายแนวข้อสอบ
แต่ถ้าคุณมีแผนที่ดี — อ่านอย่างเข้าใจ ฝึกทำข้อสอบบ่อย ๆ จัดระบบทบทวน และฝึกสอบแบบจำลอง

โอกาสผ่านในครั้งเดียวอยู่ไม่ไกลเลยครับ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว การสอบนี้ไม่ใช่เรื่องของความจำ
แต่คือเรื่องของ “วินัย + ระบบการเตรียมตัว”
ถ้าคุณมีสองอย่างนี้ คุณก็มีสิทธิ์สอบผ่านไม่ต่างจากใคร

อ่าน โครงสร้างข้อสอบท้องถิ่น หรือ กฎหมายข้อสอบท้องถิ่นที่ต้องอ่าน

Share the Post: